การจัดกิจกรรมสอนลูกก่อนวัยเรียน
โดย Dekhomeschool
พระเจ้าทรงสร้างเด็กๆ ให้มีความสงสัยและรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เด็กๆ เรียนรู้ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลานอนหลับ ขณะที่นั่งอยู่ในบ้าน เดินเล่นนอกบ้าน ฉะนั้นเราจึงต้องทุ่มเทเวลาในการสอนลูกเพื่อพัฒนาการทางร่างกายและสมองทุกวัน
ในข้อเฉลยพระธรรมบัญญัติ 6:7 (บทที่ 6 ข้อที่ 7) กล่าวถึงว่า
7และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านี้แก่ลูกหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนี้
Deuteronomy 6
7 Impress them on your children. Talk about them when you sit at home and when you walk along the road, when you lie down and when you get up.
************************************
มีผู้ปกครองได้ส่งข้อความอินบ๊อกซ์ถึงดิฉัน ได้ขอคำแนะนำว่าจะสอนอะไรลูกดี ลูกยังเล็กอยู่ยังไม่ถึงวัยเข้าเรียน และอยากเตรียมให้ลูกเรียนโฮมสคูลในอนาคต นอกจากการอ่านนิทาน สอนลูกนับเลข และระบายสีที่ดิฉันได้แนะนำในเบื้องต้น ยังมีกิจกรรมการสอนอื่นๆ ที่น่าสนใจที่อยากจะแนะนำ แต่เนื่องด้วยการตอบทางอินบ๊อกซ์แบบส่วนตัวค่อนข้างจำกัดพื้นที่ และต้องตอบหลายๆท่าน ด้วยคำตอบที่คล้ายๆกัน ดิฉันจึงทำการจดบันทึกการเตรียมตัวสอนลูกวัยก่อนเรียนตั้งแต่อายุแรกเกิด จนถึง 5 ขวบ นำมาโพสต์ในเพจสาธารณะ เพื่อเป็นข้อเสนอแนะให้คุณพ่อ-คุณแม่ได้นำไปปรับใช้ค่ะ
มีกิจกรรมอะไรบ้าง
- หนังสือ แนะนำให้เตรียมหนังสือเยอะๆ ค่ะ หนังสือที่มีรูปภาพประกอบเยอะๆ เช่น หนังสือที่เกี่ยวกับศิลปะ รูปทรงเรขาคณิต รูปสัตว์ต่างๆ หนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หนังสือนิทาน หนังสือบทกลอน คุณพ่อ-คุณแม่ อ่านหนังสือ อ่านนิทานให้ลูกฟัง อ่านชัดๆ ช้าๆ เพื่อให้ลูกจำการออกเสียงที่ชัดเจนและถูกต้อง จากประสบการณ์ของดิฉัน ลูกคนเล็กจะชอบนิทานอยู่เล่มสองเล่ม ดิฉันจำได้ว่าต้องอ่านนิทาน นายขนมปังขิง วันละไม่ต่ำกว่า 50 รอบ (เรื่องจริงค่ะ อ่านจนจำได้ทุกบรรทัด) คุณพ่อ-คุณแม่ต้องห้ามเบื่อค่ะ ไม่ว่าจะต้องอ่านวันละกี่สิบรอบ (แนะนำนิทานภาษาอังกฤษนะคะ จะได้เรียนรู้ไปพร้อมกันสำหรับคุณพ่อ-คุณแม่ที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษพร้อมกับลูก) อ่านให้ลูกฟังบ่อยๆ ต่อไปลูกจะจำคำได้และต่อมาก็ให้ลูกเป็นคนอ่านให้คุณฟังบ้าง
- หาหนังสือที่มีแผ่นซีดีแถมมาในหนังสือ จัดห้องเรียนให้ลูกไว้นั่งฟังและเรียนการอ่านไปพร้อมกับซีดี
- เก็บกล่องกระดาษเปล่าไว้ประดิษฐ์รถไฟกับลูก ถ้ามีลังกระดาษใหญ่ๆ ก็ประดิษฐ์เป็นบ้านของเล่น อาจจะประดับประดาหรือทาสี ติดผ้าม่านตามใจชอบ
- เด็กเล็กชอบขีดเขียนผนัง คุณพ่อ-คุณแม่จัดหากระดาษแผ่นยักษ์แปะฝาผนังไว้ให้ลูกได้มีพื้นที่ขีดเขียน วาดผนังได้ตามใจชอบ เตรียมดินสอสี สีเทียนใส่กล่องวางไว้บริเวณนั้นให้ลูกได้หยิบสะดวก แล้วศิลปินตัวน้อยจะได้เริ่มงานวาดภาพตามจินตนาการ
- หากรรไกรสำหรับเด็ก พร้อมด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือวารสารเก่าๆ ให้ลูกได้ฝึกกล้ามเนื้อมือ ให้ลูกตัดกระดาษตามใจชอบ และง่วนอยู่กับกิจกรรมนี้ได้เป็นชั่วโมง
- หากล่องรูปทรงกระบอก เช่นกล่องมันฝรั่ง ให้ลูกไว้ทอยฝาพลาสติคใส่กล่อง เป็นเกมส์ที่สนุกสำหรับเด็กๆ ค่ะโดยไม่ต้องลงทุนซื้อของเล่นแพงๆ เป็นการฝึกใช้สายตา และฝึกความแม่นยำของการกะระยะทางสิ่งของใกล้-ไกล
- ซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็นที่เป็นตัวอักษรหรือรูปการ์ตูนต่างๆ ให้ลูกได้ติดเล่นบนฝาตู้เย็น ลูกจะสนุกกับการเล่นสมมติและจินตนาการเรื่องราวสนุกๆ
- เตรียมรถสามล้อหรือม้าโยกเยก ให้ลูกได้ออกกำลังกาย บางครอบครัวอาจเตรียม เครื่องเล่นสำหรับกระโดด (Trampoline) ช่วยพัฒนาสมองและการเคลื่อนไหวของร่างกาย (ปัจจุบันแทรมโพลีนจัดเป็นกีฬาระดับโอลิมปิค)
- หาโหลแก้วปากกว้างๆ สอนลูกหยอดเหรียญสตางค์ใส่โหลหรืออาจจะหาลูกแก้ว เมล็ดถั่วแห้งๆเม็ดใหญ่ๆ ไว้ให้ลูกฝึกตวงปริมาณเมล็ดใส่โหลค่ะ
- ชวนลูกตัดกระดาษลูกโซ่ เป็นรูปร่างต่างๆ
- สอนลูกเย็บกระดาษด้วยเชือกหรือริบบิ้น หากระดาษแข็ง2-3 แผ่น เจาะรูด้านข้าง แล้วให้ลูกหัดร้อยเชือก
- ทำลูกบอลเล็กๆ จากผ้าเก่าๆ หาเศษผ้านุ่มๆ ใส่เมล็ดถั่วแดงหรือถั่วเขียวบรรจุลงบนผ้า มัดด้วยหนังยาง เล่นโยนรับลูกบอลถั่วกับลูก หรือ หัดให้ลูกเดินทรงตัวโดยวางลูกบอลถั่วไว้บนศีรษะ
- ชวนลูกทำถาดอาหารนก โดยวางเมล็ดพืชหรืออาหารนกไว้ในถาด เอาไปวางไว้ที่ที่สามารถเห็นนกกินอาหารได้ หาสมุดรูปภาพนกให้ลูกได้ศึกษาและสนุกกับการดูนกพันธุ์ต่างๆ ที่กำลังกินอาหารอยู่
- พาลูกเดินสำรวจธรรมชาติ เตรียมแว่นขยายให้ลูกไว้ส่องดูใบไม้ มด แมลงต่างๆ และอาจจะชวนกันเก็บก้อนหินสวยๆ มาใส่โหลเป็นของสะสม
- ชวนลูกปลูกเมล็ดพืช แลัวให้ลูกคอยรดน้ำ เฝ้าสังเกตุการเจริญเติบโตด้วยกัน
- ชวนลูกเล่นดนตรี ร้องเพลงด้วยกัน ตั้งวงดนตรีเล็กๆในครอบครัว เช่น คุณพ่อเล่นกีต้าร์หรือคีย์บอร์ด คุณลูกตีกลอง (กลองทำจากกล่องกระดาษ) คุณแม่เป็นนักร้อง สลับตำแหน่งกันเล่น สร้างบรรยากาศอบอุ่นและสนุกสนาน
- สร้างร้านขายของสมมติให้ลูก จัดชั้นวางของขายให้ลูก สมมติว่าเป็นร้านค้า มีตะกร้าช้อปปิ้ง ลูกจะได้สนุกกับการขายของและคิดเงิน สอนให้ลูกรู้จัก เหรียญสิบ เหรียญห้า เหรียญบาท และเหรียญสตางค์
- กางเต๊นท์ไว้กลางห้อง หาไฟฉายให้ลูกเล่น สมมติว่าตั้งแค้มป์กัน ชวนลูกอ่านหนังสือนิทานในเต๊นท์และนอนในเต๊นท์
- ชวนลูกทาสี หาโต๊ะพลาสติคหรือเก้าอี้ไม้ที่โดนน้ำได้ ให้ใส่น้ำเปล่าในถังพลาสติค หาแปรงทาสีเล็กๆ ให้ลูกได้เล่นทาสีโดยไม่ต้องใช้สีจริง
- ชวนลูกเล่นบัตรคำหรือบัตรภาพ และทายคำจากการบอกใบ้ด้วยท่าทาง
เห็นมั้ยคะว่า การสร้างบรรยากาศกิจกรรมการเรียนให้ลูกแบบง่ายๆ ดิฉันไม่ได้เอ่ยถึงการจับลูกนั่งดูทีวีเลยสักข้อ จริงอยู่ว่าทีวีหรือการเล่นเกมส์จากมือถือ หรือแท็บเล็บ เป็นเรื่องปกติไปแล้วในยุคปัจจุบัน แต่การฝึกพัฒนาการโดยการใช้ทีวีหรือเกมส์จากคอมพิวเตอร์ อาจจะจำกัดการพัฒนาการของลูกให้คิดช้าลงและในที่สุดก็ไม่กระตือรือล้นในการเรียนเลย ผลกระทบของการดูทีวีในเด็กเล็ก คุณพ่อ-คุณแม่ลองหาอ่านจากในเน็ตนะคะ
ทีนี้ลองมาดูกิจกรรมที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ ลองดูสิคะว่าคุณพ่อ-คุณแม่จะจัดการสอนการเรียนเป็นวิชาอะไรได้บ้าง
1 วิชาการเรือน – หาอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เด็กๆ สามารถใช้ได้ เครื่องดูดฝุ่นของเล่น เตารีดของเล่น ให้ลูกได้สมมติว่ากำลังทำความสะอาดบ้าน หรือเล่นรีดผ้า
2 วิชาแต่งตัว -หาชุดต่างๆหรือ ชุดแฟนซี ให้ลูกได้ลองประดิษฐ์การแต่งตัวให้ตัวเอง
3 วิชาการอ่าน – หาสมุดภาพนิทานมาตั้งกองไว้ พร้อมกับเบาะรองนั่งใหญ่ๆ ให้ลูกได้นั่งอ่านหนังสือสบายๆ
4 วิชาการเขียน – หากระดาษ ดินสอ สมุดบันทึก ให้ลูกได้บันทึกโดยการวาดภาพประจำวัน (แทนการเขียนไดอารี่) หรือขีดเขียนตัวอักษร เริ่มจากฝึกให้ลูกเขียนชื่อตัวเอง
5 วิชาศิลปะ -จัดวาง สีเทียน สีเมจิค สีไม้ วางไว้เพื่อที่ลูกจะได้สะดวกหยิบไปใช้ฝึกแววศิลปินวาดภาพ
6 วิชาบันทึกเสียง -ให้ลูกบันทึกเสียงตัวเองขณะที่กำลังอ่านนิทาน อาจจะทำเสียงของตัวละคร แลัวเปิดให้ลูกฟังเสียงตัวเอง
7 วิชาวิทยาศาสตร์ – ชวนลูกสะสมใบไม้รูปร่างต่างๆ ก้อนหินรูปร่างต่างๆ สำรวจสวนหน้าบ้าน สวนหลังบ้าน หรือไปสวนสาธารณะ วนอุทยาน
8 วิชาคณิตศาสตร์ – สอนลูกดูนาฬิกา นับตัวเลข บวกเลขง่ายๆ โดยใช้เมล็ดถั่ว สอนเรื่องความยาวโดยใช้ไม้บรรทัดวัดขนาดความยาวของสมุด ดินสอ โต๊ะ
การจัดการสอนลูกก่อนวัยเรียนไม่ยากเลยใช่ไหมคะ คุณพ่อ-คุณแม่ต้องมีความอดทนในการอ่านหนังสือเล่มเดิมๆที่ลูกชอบ (วันละเกือบ 50รอบ ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ อิอิ) บางครั้งเด็กเล็กจะไม่ค่อยอยู่นิ่ง ความตั้งใจเรียนอาจจะแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง คุณพ่อ-คุณแม่ลองหากิจกรรมที่ใช้เวลาไม่นานเกินไป และสังเกตุช่วงเวลาที่ลูกยังมีความกระตือรือล้นอยู่ เช่น ช่วงเช้าหลังตื่นนอนไปจนถึงเที่ยง จะเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการสอนลูกค่ะ
************************************
ลิขสิทธิ์บทความเป็นของบล็อค WordPress: TGI@homeschool , fb:dekhomeschool
หากต้องการเผยแพร่กรุณาใส่ชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วยค่ะ
เพื่อเป็นการสนับสนุนเพจ dekhomeschool ช่วยคลิกลิงค์ด้านล่างนี้ด้วยนะคะ รอจนกว่าจะมีคำว่า Skip Ad ปรากฏขึ้นที่มุมขวาค่อยกดที่ skip Adเพื่อเข้าหน้าเพจค่ะ